ลูกอมทำพิษ ลูกน้อยอาละวาด กลางห้างสรรพสินค้า


ลูกอมทำพิษ ลูกน้อยอาละวาด กลางห้างสรรพสินค้า

หนูจะเอา ! หนูจะเอา ! หนูไม่ยอม !
พ่อแม่หลายคน คงคุ้นหูกับคำพูดนี้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะ เมื่อลูกน้อย อยู่ในวัย 1-3 ขวบ
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร สำหรับเด็กวัยนี้ ที่ชอบ อาละวาด
และดูเหมือนว่า มันจะเกิดขึ้นกับทุกคนซะด้วยซ้ำ
มันไม่แปลกหรอก แต่มันน่าเบื่อสำหรับพ่อแม่
เพราะถ้าหาก ลูกเริ่ม อาละวาด แบบนี้ขึ้นมาทีไร
คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย ไม่วาย อยากเอา ปิ๊บ คลุมหัว
หลบหน้าประชาชนกันไปแถบๆ โดยเฉพาะ ตอนที่เห็น
ของเล่น ลูกอม ขนม หรือ น้ำอัดลม นี่แหละตัวดีเลยเชียว
ตีแล้วก็แล้ว ดุแล้วก็แล้ว ก็ยังไม่เลิก อาละวาดซะที
พ่อแม่คนไหนที่กำลัง เซ็ง กับปัญหานี้ เตรียมยิ้มได้เลย
เพราะมันไม่มีอะไร ที่แก้ไขไม่ได้หรอก



ทำไมเด็กไม่เลิกอาละวาด

พ่อแม่บางคนคิดว่า สาเหตุที่ลูกอาละวาด
คือ พ่อแม่ไม่ได้ทำตามข้อเรียกร้องของลูกบางอย่าง
เขาจึงยอม อนุญาติ ในสิ่งที่แต่ก่อนไม่ได้อนุญาติ
หรือ เมื่อตีลูกแล้ว เพื่อไม่รู้สึกผิด พ่อแม่บางคน ยอม
ให้ลูกได้มากกว่าที่ลูกขอกว่าเดิมเสียอีก. ลูกหยุดอาละวาด
พ่อแม่โล่งใจ แต่รู้ไหมว่า การทำแบบนี้ ไม่ได้ช่วยลูกเลย
เขายิ่งจะอาละวาดมากขึ้นอีก เพราะ เด็กรู้แล้วว่า
การอาละวาดใช้ได้ผลเป็นอย่างมาก อย่าดูถูก
ว่าเขาคิดไม่เป็น สมองของเด็กมันพัฒนาได้มากกว่า
ผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ. ดังนั้น เพื่อช่วยลูกให้เลิกอาละวาด
ในวิธีที่ถูกต้อง คุณต้องเข้าใจความจริงเรื่องนี้ก่อน.


เด็กวัยสามขวบเรียนรู้ได้มากขึ้นว่าอะไรถูกอะไรผิด

ขอให้คิดถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในชิวิตของเด็ก
วัยคลานเตาะแตะ ช่วงนั้น เด็กแค่ร้อง ใครต่อใครก็รีบมาหา
แต่ พอถึงวัย 2 -3 ขวบ เขาเริ่มรู้แล้วว่า อำนาจ ที่เขา
มีอยู่นั้น ใช้ได้เพียงชั่วคราว
และเปลี่ยนจากผู้บังคับบัญชา
เป็น ผู้ที่ต้องอยู่ใต้อำนาจของพ่อแม่แทน
เขาจึงใช้วิธีอาละวาด เพื่อเอาชนะ ในช่วงวัยนี้ พ่อแม่ต้อง
หนักแน่นและแสดงความรักกับลูก เป็นพิเศษ เพื่อช่วยเขา
ให้เข้าใจและสามารถปรับตัวกับบทบาทใหม่ได้ง่ายขึ้น



หนักแน่น และ เสมอต้นเสมอปลาย

ปกติเด็กเล็กๆ อยากลองดูว่า เขาจะสามารถฝ่าฝืนกฎ
ได้ถึงขีดไหน ถ้าพ่อแม่ ยอม ให้ลูกทำสิ่งที่ห้ามไว้อย่าง
ชัดเจนแล้ว นั่นทำให้ลูกสับสนมาก วิธีดีที่สุด
คือ พ่อแม่ต้องเสมอต้นเสมอปลาย และ หนักแน่นให้มากๆ


ไม่อะลุ่มอล่วย

สำคัญมากที่พ่อแม่จะ ไม่อะลุ่มอล่วย แต่เวลาเดียวกัน
พ่อแม่ต้องไม่ใช้ ความเห็นของตัวเองเป็นใหญ่ และ
อย่าเข้มงวดกับลูกเกินไป หากลูกเสียใจจริงๆ พ่อแม่ควร
ลดหย่อนผ่อนปรนลูกลงบ้าง ก็จะดี


พยามเข้าใจลูก

เด็กยังไม่รู้วิธีรับมือกับอารมณ์ และ ความรู้สึกของ
ตัวเอง เขาเลยแสดงออกมากเกินไปเมื่อ ไม่พอใจ
ดังนั้น ขอคุณพยายามเข้าใจ ความรู้สึกของลูก


ใจเย็นๆ

คุณต้องใจเย็นๆเมื่อลูกอาละวาด เพราะ การโมโห
ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย
ถ้าเป็นไปได้ คุณควรทำ
เป็นไม่สนใจ และพยายามจดจำสาเหตุ ว่า ทำไม
ลูกอาละวาด คุณก็จะสามารถควบคุมอารมณ์ได้ง่ายขึ้น


อบรมสั่งสอน

เพื่อให้เด็กเข้าใจว่า สิ่งที่เขาทำนั้น ไม่ถูกต้องจริงๆ
สิ่งหนึ่งที่ช่วยสอนลูกได้อย่างบังเกิดผล คือ การพูดบ่อยๆ
จำเป็นการ ใช้ท่าทางประกอบ พร้อมกับ มองตาลูกด้วย
รวมทั้ง ใช้น้ำเสียงที่หนักแน่น ควบคู่กันไป



หากคุณพยามหนักแน่น ทำตามคำแนะนำนี้แล้ว
คุณจะสามารถ ช่วยลูกน้อยให้เติมโตเป็นผู้ใหญ่ที่มี
เหตุผล นับถือคนอื่น มีสัมมาคาระ หนักแน่น
มีมาตรฐาน ใจเย็น เรียบร้อย ไม่ก้าวร้าว ได้
แต่ ! ถ้าคุณยอม ตามใจลูกแบบผิด เพียงแค่
ไม่อยากให้ลูกส่งเสียงดัง อาละวาดแค่นี้ รับรอง
ได้ว่าหากเขาโตเป็นวัยรุ่นขึ้นมา ถ้าเขาอยากได้
ในสิ่งที่พ่อแม่ให้ไม่ได้ เช่น ช่วงนี้วัยรุ่นหลายคน
นิยม มอเตอร์ไซค์มือสอง ไอแผด สมาร์ตโฟน
โปรดเตรียมใจไว้เลยว่า ลูกวัยรุ่นของคุณ
พร้อมเสมอที่จะส่งเสียงดัง อาละวาด ปาข้าวปาของแน่
เพราะลูกชินกับการทำแบบนี้ตั้งแต่เล็กๆแล้ว
เขาคงไม่รู้สึกแปลก และ ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร
ที่จะอาละวาดอีกตอนที่โตแล้ว




และที่สำคัญ หากเขาโตเป็นผู้ใหญ่
ถึงวัยที่จะมีครอบครัว ขึ้นมา มั่นใจได้เลยว่า
ถ้ามีเรื่องที่ไม่ได้ดั่งใจเขาคงจะ โวยวายอาละวาด
กับคู่ของเขา
นั่นแหละ และเผลอๆ เป็นการสอน
ให้ลูกเห็นทางอ้อมอีกว่า ถ้าไม่ได้ดั่งใจขึ้นมา
ก็ต้องอาละวาดแบบนี้นะลูก ครอบครัวจะมีความสุข
ได้ไหมล่ะ เห็นแล้วใช่ไหมว่า การอาละวาด
ส่งผลเสียหายร้ายแรงขนาดไหน คุณพ่อคุณแม่
ที่กำลังตามใจลูกๆแบบไม่มีเหตุผล หรือยอมลูก
แค่ ไม่อยากให้เขาส่งเสียงดังอาละวาด แล้วล่ะก็
คุณ ต้องปรับเปลี่ยนนิสัยซะใหม่ได้แล้ว
เพราะ การหนักแน่นตอนที่ลูกยังเล็กนี้ จะส่งผลดีต่อลูก
ในอนาคตด้วย อดทนๆนะ คุณพ่อคุณแม่ สู้สู้!

이 블로그의 인기 게시물

เจ้าชู้มีข้อเสียยังไง

ผู้ชายในฝันอุดมคติของสาวๆ

อยู่ก่อนแต่งข้อเสียคืออะไร