สินเชื่อเพื่อเรียนต่อต่างประเทศ
สินเชื่อเพื่อเรียนต่อต่างประเทศ
มหิดล จุฬาลงกรณ์ เทคโนโลยีสุรนารี
พระจอมเกล้า ธรรมศาสตร์ นเรศวร เกษตรศาสตร์ ขอนแก่น เชียงใหม่
นี่เป็นเพียงบางรายชื่อเท่านั้นของมหาวิทยาลัยชื่อดังใน เมืองไทย
ถ้าใครได้มีโอกาสเข้ามหาลัยเหล่านี้ ย่อมเป็นหน้าเป็นตาให้กับครอบครัว แต่รายชื่อที่ยกขึ้นมานี้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว แต่! ก็ยังมีสถาบันที่ถือว่าสุดยอดกว่าอีก
ใช่แล้ว การเรียนต่อที่ต่างประเทศนั่นเอง หรือที่ใครเรียกว่า นักเรียนนอก นั่นเอง แค่ฟังก็ดูโก้มากเลย
แต่อย่างที่รู้กันคนที่มีโอกาสได้ไปเรียนเมืองนอกนั้น
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นระดับไฮโซทั้ง นั้น ค่าใช้จ่ายต่างๆก็เป็นแค่เศษตังค์ของพวกเขา
งั้นแสดงว่า อนาคตที่ดีมีให้แค่เฉพาะคนรวยเท่านั้นหรอ
ไม่! ไม่! ก็เพราะว่าความจริงแล้วคนธรรมดาสามัญชนก็สามารถไปเรียนต่อที่ต่างประเทศได้ ด้วยเช่นกัน มีวิธีง่ายๆ คือ การขอสินเชื่อกับธนาคารเพื่อการศึกษาต่อที่ต่างประเทศนั่นเอง
คุณสมบัติ ผู้กู้
1) ผู้ปกครองหรือบิดามารดาของนิสิตนักศึกษาหรือบุคคลที่ ทำงานแล้วต้องการไปศึกษาต่อ
2) มีรายได้แน่นอน หรือทำธุรกิจส่วนตัว
3) ไม่มีประวัติเสียหายด้านการเงิน
หรือมีหนี้สินล้นตัว
4) บรรลุนิติภาวะรวมทั้งอายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาใน
การกู้ต้องไม่เกิน 65ปี
คุณสมบัติของผู้ค้ำประกัน
1) ต้องเป็นข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ
รวมทั้ง พนักงานองค์การของรัฐที่มีเงินเดือนไม่น้อยกว่า
15,000บาท
2) ประกอบธุรกิจส่วนตัว มีรายได้ต่อเดือน
ไม่น้อยกว่า 50,000 บาท
3) เป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่มีเงินเดือนไม่น้อยกว่า
20,000บาท
4) ไม่มีประวัติเสียหายด้านการเงิน
และมีหนี้สินท่วมหัว
หลักฐานในการขอสินเชื่อกู้ยืม
1) สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส
สำเนาทะเบียนหย่าของคู่สมรสของผู้กู้ ผู้ค้ำประกันและคู่สมรส
2) สำเนาบัตรประชาชน
บัตรประจำตัวข้าราชการ หรือบัตรประจำตัวพนักงานองค์การของรัฐ
3) สำเนาการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล
4) หนังสือรับรองรายได้
หรือหลักฐานอื่นที่แสดงถึงรายได้ ของผู้กู้ คู่สมรส และผู้ค้ำ
5) ใบรับรองการศึกษา
หรือใบรับรองการเป็นนักศึกษา
หรือหลักฐานแสดงการตอบรับเข้าเป็นนักศึกษาจากต่างประเทศ
6) เอกสารรับรองจากกงสุลหรือสถานฑูต
7) หลักฐานระบุค่าใช้จ่าย
หรือหนังสือเรียกเก็บเงินจากสถาบันการศึกษา
นี่ก็เป็นรายละเอียดส่วนใหญ่ของธนาคารแห่งหนึ่งที่ได้แจ้งไว้
ยังไงก็ตามขอฝากเพื่อนๆให้ไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจไปเรียนต่อ เพราะหลายคนถือว่ายิ่งเรียนสูงเท่าไหร่อนาคตก็ยิ่งไกลเท่านั้น
แต่ถ้าลองคิดกลับกัน ยื่งสูงเท่าไหร่ ก็หมดเงินเป็นหนี้มาก เท่านั้น แล้วอนาคตที่ดีคงจะเริ่มหลังจากใช้หนี้หมดก็ไม่รู้ว่ากี่ปีเนาะ ขอฝากข้อคิดไว้ด้วยละกันเผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆบ้าง
